สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA หน่วยงานภายใต้การกำกับของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในการพัฒนาและผลักดันอุตสาหกรรมเศรษฐกิจด้านการบินและอวกาศ

อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ (Space Krenovation Park : SKP) ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงการผลักดันอุตสาหกรรมด้านการบินและอวกาศ (Aerospace Industry) ของไทยและการนำร่องโครงการต่างๆ สู่การพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์ต่อไป ซึ่งมีการจัดตั้ง SKP Business Zone เปิดให้เช่าพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ประกอบการที่มีความสนใจ ที่จะทำธุรกิจด้าน Aerospace ในปัจจุบัน ได้เปิดให้บริการแก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งภายในและต่างประเทศ อาทิเช่น Swedish Space Corporation, DEPA, CGX เป็นต้น

โดยในพื้นที่ SKP ยังเป็นศูนย์รวมการวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อวกาศฝีมือคนไทยมากมาย อาทิเช่น โครงการพัฒนาระบบปฏิบัติการควบคุมและทดสอบประกอบดาวเทียม เพื่อใช้ในการควบคุมดาวเทียม THEOS และรองรับดาวเทียมในอนาคตอย่าง THEOS-2 ศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาเชิงกลยุทธ์และปฏิบัติการ ด้านการบินและอวกาศ รวมถึงห้องปฏิบัติการความเป็นเลิศและนวัตกรรมการบินและอวกาศ “GALAXI” –  GISTDA’s Aerospace Laboratory of eXcellence and Innovation มุ่งเน้นวิจัยพัฒนาวัสดุและโครงสร้างอากาศยาน เพื่อส่งเสริมภารกิจนวัตกรรมและสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินและอวกาศด้านการผลิตและซ่อมบำรุงอากาศยาน อีกทั้งเป็นองค์กรของรัฐแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านการบินและอวกาศ AS9100 จาก Lloyd’s Register ได้เริ่มให้บริการแก่หน่วยงานเอกชนในประเทศอาทิเช่น Aeroworks (Asia) Co., Ltd, Triumph Structures (Thailand) Ltd. และ Zodiac Airactering Equipment (Thailand) Ltd

นอกจากนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ SKP สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI : The Board of Investment of Thailand จึงได้เสนอสิทธิประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ โดยมีสิทธิประโยชน์ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนที่จะช่วยสนับสนุนการให้บริการทางการเงิน                การยกเว้นภาษีเงินได้ ลดขั้นตอนการดำเนินงานและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ให้กับนักลงทุนอีกด้วย

การพัฒนาผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) หรือ Entrepreneurial Development Program (EDP) มีเป้าหมายเพื่อสนับ สนุน ส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพของกลุ่มเป้าหมายโดยเน้นให้เกิดการลงทุนธุรกิจดิจิทัลควบคู่กับการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลเชิงพาณิชย์

 

การพัฒนา “ผู้ประกอบการใหม่ (New Entrepreneurs)” “บริษัทจัดตั้งใหม่ (Start-up Companies)” และ“วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมของ SKP นั้น เป็นการมุ่งให้เกิดการเติบโต โดยใช้ข้อได้เปรียบจากสภาพแวดล้อม ทางวิชาการ เสริมสร้างความเข้มแข็ง และสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ มีการดำเนินการใน 3 ระดับ ได้แก่

1) Ignite เป็นกิจกรรมสำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักจากมหาวิทยาลัย  (นักศึกษา /บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา/อาจารย์และบุคลากร/นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์) มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักและการสนับสนุนให้เกิดการสร้างสังคมผู้ประกอบการ โดยเน้น ซึ่งกิจกรรมจะมุ่งเน้นการสร้างแรงบัลดาลใจเพื่อพัฒนาไปสู่การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สู่การพัฒนานวัตกรรมเช่น 1) กิจกรรม Academic Roadshow 2) การรับสมัครเครือข่ายสมาชิก 3) Technical Activities ( เช่น กิจกรรมทดสอบ UAV อากาศยานไร้คนขับ)  4) การฝึกงานของนักศึกษา เป็นต้น ทั้งนี้ สนับสนุนให้ดำเนินกิจการ ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น จะมีลักษณะยืดหยุ่น โดยจะสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมกระบวนการ Lift-Off ได้เข้ารับการบ่มเพาะจากศูนย์บ่มเพาะธุรกิจของมหาวิทยาลัย ( University Business Incubation Center) ก่อน

2) Lift-Off เป็นการเข้าร่วมโครงการสำหรับกลุ่มเป้าหมาย“ผู้ประกอบการใหม่ (New Entrepreneurs)” และ “บริษัทจัดตั้งใหม่ (Start-up Companies)” ที่มีความต้องการพัฒนาองค์กรด้วยการเพิ่มช่องทางทางการตลาดและพัฒนาธุรกิจให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัวและมีผลประกอบการที่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ SKP จะมีบทบาทในการช่วยลดอัตราความล้มเหลวของการจัดตั้งธุรกิจในระยะแรก โดยการให้ความช่วยเหลือด้านทรัพยากร เช่น

– ด้านสถานที่ประกอบการ เครื่องมือ และข้อมูล

– การอบรมทักษะทางธุรกิจ (ดำเนินการร่วมกับศูนย์บ่มเพาะธุรกิจของมหาวิทยาลัย                (University Business Incubation Center))

– Professional networks

– สนับสนุนช่วยเหลือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การวิจัย และการวางแผนการตลาด

– โอกาสในการได้รับสนับสนุนด้านเงินร่วมทุน

รวมทั้ง ผู้ประกอบการจะได้ทดลอง และปรับปรุงการทำธุรกิจ ตลอดจนการพัฒนาสินค้าของตนเอง จนเกิดความมั่นใจ และสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง

3) ∆V (Delta V) เป็นการเข้าร่วมโครงการสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ธุรกิจเริ่มมั่นคงแล้ว และมีความต้องการพัฒนาความเข้มแข็งขององค์กร ขยายเครือข่ายทางธุรกิจ เพื่อเร่งการเติมโตของกิจการ  ด้วยการสร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ยนแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรม รวมทั้ง SKP จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Beta-product /Joint Project) และการเข้าเป็นหุ้นส่วนหรือกิจการร่วมค้า (Strategic partnerships) หรือ การเข้าร่วมลงทุนหรือถือหุ้น  (Venturing) เพื่อที่จะร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมและสร้าง มูลค่าให้กับองค์กร โดยสามารถขอรับการบริการโครงสร้างพื้นฐานของ SKP ได้ เช่น

  – การขอรับคำปรึกษาด้านการวิจัยและพัฒนา

  – การขอใช้บริการห้องปฏิบัติการ/ ทดสอบ

  – การฝึกอบรม

 

เครื่องมือเพื่อการพัฒนานวัตกรรม การบริการ (SKP Service) มีทั้งหมด 7 ตัวได้แก่

1.Technology-Infrastructure-based Services

2.Business/IP Services

3.Financing and Access to finance

4.People Connectivity & Networking

5.Education/Access to knowledge

6.Brand Building

7.Management of the Program (HR)

 

บริการด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการประกอบธุรกิจ

– พื้นที่สำหรับสำนักงาน ห้องประชุม

– พื้นที่พักอาศัย สำหรับผู้ประกอบการ

– เครือข่ายอินเตอร์เน็ท โทรศัพท์ โทรสาร

– ให้คำปรึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ โดยผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เช่น การวางระบบการจราจรทาอากาศ ฯลฯ

– ห้องปฏิบัติการความเป็นเลิศและนวัตกรรมการบินและอวกาศ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิตชิ้นงาน การจัดการและการวางแผนการผลิต และการให้บริการทดสอบและวิจัย

– ให้บริการประกอบ ทดสอบ Environment Testing (อีก 2 ปีข้างหน้า)

– ให้บริการห้องปฏิบัติการ Research Unit

– อุปกรณ์เครื่องมือ

 

บริการด้านที่ปรึกษาธุรกิจ/IP (ร่วมกับศูนย์บ่มเพาะธุรกิจของมหาวิทยาลัยบูรพา/เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา)

 ให้คำปรึกษาการเขียนโมเดลธุรกิจ การตลาด และการขาย

– ให้คำปรึกษาด้านการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ สำหรับ SMEs

– การทำธุรกิจด้วยช่องทางสมัยใหม่ (Online, e-commerce)

– การวิจัยตลาด (Marketing Research)

– อำนวยการจดอนุสิทธิบัตร สิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญา อื่นๆ อาทิ เช่น เครื่องหมายการค้า เป็นต้น

– การให้บริการสืบค้น สิทธิบัตร การแปลสิทธิบัตร

– การให้คำปรึกษาในการคุ้มครอง ทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ

– การให้คำปรึกษาและบริการร่างสัญญาต่างๆ

 

บริการด้านการเงิน

– ให้คำปรึกษาด้านการจัดการวางแผนการลงทุน ผลตอบแทนทางการเงิน การวิเคราะห์ความเสี่ยง (ร่วมกับศูนย์บ่มเพาะธุรกิจของมหาวิทยาลัยบูรพา/เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา)

– เชื่อมโยงกับ Crowd Funding

– การพิจารณาร่วมลงทุนของ สทอภ.

 

บริการด้านเครือข่ายธุรกิจ

– การเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐและภาคธุรกิจต่างๆ เพื่อความร่วมมือในการส่งเสริมการทำธุรกิจเช่น การออกงานแสดงสินค้า การเข้าประกวดในเวทีต่างๆ เป็นต้น

– การจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching)   การเข้าร่วมเครือข่ายทางธุรกิจ (Business Network)

– การเข้าสู่ Global supply chain

 

บริการด้านการศึกษาและฝึกอบรม (ร่วมกับสถาบันวิทยาการอวกาศและภูมิสารสนเทศ/สทอภ. และศูนย์บ่มเพาะธุรกิจของมหาวิทยาลัยบูรพา/เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา)

– การเข้าร่วมฝึกอบรม/ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ

– การเข้ารับการอบรมหลักสูตรเตรียมความพร้อมประกอบธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงทักษะด้านการตลาด การเงิน การผลิต และการบริหารงานบุคคล

– การฝึกอบรมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ

 

บริการด้านการสร้างแบรนด์

– การนำสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด (Product launch)

– การประชาสัมพันธ์ผลงานผ่านสื่อต่างๆ ของ สทอภ. /SKP

– Co-branding กับบริษัทต่างชาติ  

 

บริการด้านการบริหารจัดการ

– ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ

– ให้บริการด้านจัดการบุคลากร เช่น การเสาะหานักวิจัย/วิศวกร การจัดหาผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค การแลกเปลี่ยนนักวิชาการ/นักวิจัย ลูกจ้าง (นักศึกษาฝึกงาน)

– ให้บริการจัดการ Outsourcing

 

สิทธิประโยชน์ (Incentive) ตามนโยบายรัฐบาล

 

การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี และ นวัตกรรม (กรณีรายจ่ายทางภาษี 3 เท่า) (กรมสรรพากร) มีขั้นตอนในการดำเนินการดังนี้

 

มาตรการส่งเสริมกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

เป็นการขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการของ BOI ประกอบด้วย

1) ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร

2) ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นสัดส่วนร้อยละ 200 ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) สำหรับประเภทกิจการในกลุ่ม A

3) สิทธิและประโยชน์อื่นให้ได้รับตามหลักเกณฑ์ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 2/2557 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2557

 

สิทธิประโยชน์ทางการเงิน เป็นการประสานงาน และดำเนินการตามขั้นตอนร่วมกับ

1) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในการลงทะเบียนผู้ประกอบการ SMEs และขอรับสิทธิประโยชน์

2) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

 3) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

 4) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

 5) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม

 

สิทธิพิเศษ (Privileges)

การใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลภูมิสารสนเทศ

– ยกเว้นค่าข้อมูลดาวเทียมไทยโชตที่อยู่ในคลังข้อมูล เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาผู้เข้าร่วมโครงการ

– ยกเว้นค่าข้อมูลดาวเทียมสำรวจทรัพยากรอื่นๆ ซึ่งอยู่ในคลังข้อมูล ของ สทอภ. ซึ่ง สทอภ. ได้ทำการตกลงกับหน่วยงานเจ้าของข้อมูลเพื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนำข้อมูลดังกล่าวใช้ในการวิจัยและพัฒนา

– ยกเว้นค่าข้อมูลเรด้าร์ชายฝั่งเพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาของผู้เข้าร่วมโครงการ

– ยกเว้นค่าข้อมูลภูมิสารสนเทศอื่นๆ ของ สทอภ. เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาของผู้เข้าร่วมโครงการ

** หมายเหตุ **

 การได้รับสิทธิพิเศษในการใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลภูมิสารสนเทศ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขและขอบเขตที่ สทอภ. กำหนดเป็นรายกรณี

 

การได้รับส่วนลดหรือยกเว้นค่าบริการ

ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมการนั้น   SKP ได้มีมาตรการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบ (ตามข้อกำหนดในการเข้าร่วมโครงการ) โดยให้ผู้ประกอบการได้รับส่วนลดหรือยกเว้นค่าบริการ

**หมายเหตุ**

1. ผู้ประกอบการใหม่ ได้รับยกเว้นค่าบริการพื้นที่สำหรับสำนักงาน ใน Entrepreneurial Development Zone ภายในระยะเวลา 3 ปี

2. พบที่ปรึกษาได้ไม่เกิน 24 ชม. ครั้งละไม่เกิน 6 ชั่วโมง

3. ชิ้นงานทางวิศวกรรมไม่เกินโครงการละ 200,000 บาท

4. สำหรับโครงการที่ผู้ประกอบการและ สทอภ. ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการร่วมกัน