Normal
0
false
false
false
EN-US
X-NONE
TH
/* Style Definitions */
table.MsoNormalTable
{mso-style-name:ตารางปกติ;
mso-tstyle-rowband-size:0;
mso-tstyle-colband-size:0;
mso-style-noshow:yes;
mso-style-priority:99;
mso-style-parent:””;
mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt;
mso-para-margin-top:0cm;
mso-para-margin-right:0cm;
mso-para-margin-bottom:8.0pt;
mso-para-margin-left:0cm;
line-height:107%;
mso-pagination:widow-orphan;
font-size:11.0pt;
mso-bidi-font-size:14.0pt;
font-family:”Calibri”,sans-serif;
mso-ascii-font-family:Calibri;
mso-ascii-theme-font:minor-latin;
mso-hansi-font-family:Calibri;
mso-hansi-theme-font:minor-latin;
mso-bidi-font-family:”Cordia New”;
mso-bidi-theme-font:minor-bidi;}
ผศ.ภญ.ดร.รุ่งเพ็ชร สกุลบำรุงศิลป์ คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยภายหลังการลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันแบลคมอร์ส ประเทศออสเตรเลีย ว่าในปัจจุบัน Complementary Medicine หรือโภชนเภสัชภัณฑ์ ได้มีบทบาททั้งด้านการรักษา และการส่งเสริมป้องกันการดูแลสุขภาพ รวมถึงประชาชนมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพมากขึ้น ทางคณะฯมีการปรับปรุงหลักสูตรเพื่อให้ตอบรับความต้องการของสังคม มีรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แบบผสมผสานเพิ่มขึ้น เพื่อสอนให้กับนิสิต เพราะเมื่อสำเร็จการศึกษาเภสัชกรจะต้องมีองค์ความรู้ที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะให้คำแนะนำกับประชาชนในการใช้โภชนเภสัชภัณฑ์อย่างถูกต้อง
ดังนั้น การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จึงมีผลดีต่อคณะฯ เพราะจะมีการแลกเปลี่ยนบุคลากรทางการศึกษา ความร่วมมือด้านงานวิจัย และอาจมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันแบลคมอร์ส บรรยายให้ความรู้กับอาจารย์และนิสิตของมหาวิทยาลัย เพราะสถาบันแบลคมอร์สเป็นองค์กรด้านวิชาการ วิจัย มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเกี่ยวกับการใช้โภชนเภสัชภัณฑ์ มีงานวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ในด้านนี้อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ คาดว่าระหว่างทั้งสองสถาบันจะมีการทำงานวิจัย จัดอบรมวิชาการร่วมกันในอนาคต
คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันงานวิชาการทางด้าน Complementary Medicine กำลังเติบโต และทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้กำหนดแนวทางการกำกับดูแลเรื่องนี้ โดยมีการร่วมมือกับคณะฯ จัดทำแนวทางในการอนุมัติผลิตภัณฑ์ที่จะขึ้นทะเบียน ซึ่งคณะฯ มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ และจากการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับสถาบันแบลคมอร์ส จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยสนับสนุนแนวทางในการทำงานครั้งนี้
ด้านดร.เลสลีย์ บราวน์ ผู้อำนวยการ สถาบันแบลคมอร์ส ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า สถาบันแบลคมอร์สจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนและพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับ Complementary Medicine หรือโภชนเภสัชภัณฑ์ ด้วยการให้ความรู้ การวิจัย และการหานวัตกรรมใหม่ๆ มีการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อการศึกษาและค้นคว้างานวิจัย ทั้งในประเทศออสเตรเลียและประเทศในแถบเอเชีย สถาบันฯมีความเชื่อว่าการทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของแต่ละประเทศจะช่วยสนับสนุนองค์ความรู้ของประเทศนั้นๆ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการลงนามความร่วมมือกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในครั้งนี้ จะเป็นการพัฒนาทางวิชาการและงานวิจัยได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพของประเทศ